Tag: ดูหนังออนไลน์ฟรี

เรื่องราวของ Oppenheimer ชายผู้มีปัญหาในตัวเองมากมาย แต่ก็ถูกมองข้ามไปด้วยความปราดเปรื่องของตัวเขา เมื่อเขาถูกขอความช่วยเหลือให้หาหนทางยุติสงครามโลกครั้งที่สอง เขาก็ชี้ไปที่ความหวังเดียวเท่านั้น คือ อาวุธปรมาณูที่มีพลังทำลายล้างรุนแรงจนสามารถยับยั้งไม่ให้ทุกฝ่ายต่อสู้กันต่อไปได้อีก

ในช่วงที่หนังแนว Superhero เริ่มเยอะ หลายๆคนอาจจะเริ่มไม่ได้ตามกันเท่าไร และ สำหรับเรื่องนี้ก็เช่นกันเป็นหนังจากทาง DC ที่ตอนแรกจะเอาลง HBO MAX หรือ STREAMING นั้นแหละ แต่กลับกลายพัฒนามาเป็นหนังฉายโรงได้ในที่สุด ซึ่งเป็นตัวละครใหม่ ไม่ได้มีการเชื่อมต่อจากเรื่องอื่นๆอะไรทั้งนั้น และ เป็นการเล่าเรื่องจุดกำเนิดของตัว Bluebeetle นั้นเอง ซึ่งตอนแรกผมไม่ได้คาดหวัง หรือ ติดตามอะไรเท่าไร ตัวอย่างก็เรียบๆ แต่พอได้ดูจริงมันกลับทำได้ดีกว่าเรื่องอื่นๆในปีนี้ที่ดูมาหลายเรื่องทันที และ หนังทำได้ลงตัวในแง่ของ ดราม่าแบบครอบครัว การพัฒนาของตัวละคร หรือ เล่าเรื่องราวความเป็นมาของตัวละครได้เนียนไปกับหนัง และ แอคชั่นแบบระยะประชิด สนุกไว และ โชว์เทคโนโลยีของตัวละครนั้นได้ดีมากกว่าที่คิด และ นักแสดงก็เข้ากับแนวตัวละครแบบนั้นได้แบบไม่น่าเชื่อ ตัวหนังเองเล่าเรื่องแบบง่ายๆสูตรสำเร็จจริงๆ ซึ่งเป็นปกติของการแนะนำตัวละครแรกเริ่มในจักรวาลซึ่งหลายๆคนอาจจะพอรู้แนวทางของหนัง แต่หนังเรื่องนี้ก็จะพยายามเล่าทั้งเรื่องของต้นกำเนิด ที่มาพลัง และ การใช้งานควบคู่ไปกับหนัง ผมว่าจุดนี้ทำได้ดี มันเนียนไปเล่าไปข้างหน้าได้โดยที่เราก็รู้ตัวละครไปด้วยกันได้ ไม่ได้แบ่งชัดเจนว่าช่วงแรกคือที่มาของตัวนี้ หรือ ช่วงไหนเป็นยังไง ซึ่งแม้จะท้ายเรื่องแต่เราก็ยังเรียนรู้การพัฒนาของตัวนั้นได้อีกเรื่อยๆครับ ส่วนตัวบทเองเรียบๆเล่าง่ายไม่ได้ซับซ้อน แต่แทรกความเป็นหนังครอบครัวได้ดี ไม่ได้ดูยัดจังหวะอะไรแปลกๆมากเกินไป และยังทำได้ดีกว่าที่คิดในแง่ของปมตัวละครที่ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหนก็ใช้คำว่าครอบครัว และ ความผูกพันได้ดีอันนี้แอบชอบและทำได้ดีกว่าที่คิดครับ มันจะไม่ใช่แค่พูดครอบครัวแต่เราไม่รู้สึกว่ามันสำคัญ แต่อันนี้สำคัญและส่งผลหลายๆอย่าง ส่วนการกระจายบทต่างๆบางตัวละครทำได้เด่นกว่าที่คิดครับอาจจะดูไม่สำคัญ ส่วนมุกตลกอะไรก็มาแบบเน้นจังหวะหนังมากกว่า จะไม่เหมือนกับพวก SHAZAM! ครับ อันนี้จริงจังกว่า และ ไม่ตลกคำพูดเท่าเรื่องนั้น ส่วนทางด้านนักแสดงเองอันนี้น่าจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้ชอบตัวละครนี้มันจะมีอารมณ์เด็กละตินที่รู้สึกเลยว่าใกล้เคียงกับในคอมิค และ ในหนังเองแสดงได้ลงตัวมากๆ ทั้งฉากแอคชั่นในหลายๆซีน และ บทที่ค่อนข้างส่งกับตัวละครนี้ครับ ซึ่งมองน่า ถ้าได้ไปต่อกับจักรวาลใหม่น่าจะเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากๆตัวนึง และ นักแสดงเองก็ทำได้ดี ส่วนในทีมฝั่งผู้ร้ายเองแอบรู้สึกว่าไม่ได้ลึกหรือน่ากลัวอะไรมากนัก ไม่ได้โหดเท่าไร แต่ก็จะมีบางตัวละครที่ก็แสดงเห็นภูมิหลังต่างๆว่าเป็นยังไงมายังไงได้บ้าง แต่มิติตัวละครค่อนข้างเรียบๆครับไม่ได้เน้นมากเท่าไรนัก แต่จะไปเน้นทางครอบครัวฝั่งพระเอกมากกว่าชัดเจนเลย อีกทั้งมีการแทรกความจริงของคนละตินที่มาอยู่ประเทศอื่นๆ ประเด็นเล็กๆน้อยๆแทรกเข้ามาอยู่บ้างครับ ซึ่งส่วนนี้เสริมเรื่องราวของตัวละครได้ดี ในแง่ของ  CG CGI ถือว่าดี ด้วยความที่ชุดเป็นชุดจริงๆทำให้กลายการเคลื่อนไหวมันก็ดูจริงไปด้วยครับไม่ได้ลอยแบบตัวละครอื่นๆที่เน้นใช้ชุดจาก CG นั้นเอง ซึ่งเวลาต่อย ต่อสู้ระยะประชิดทำได้สะใจสนุก และ อาวุธที่ออกมาแต่ละอย่างก็ทำได้เนียนตารวมถึงหลายๆฉากที่เปลี่ยนสถานที่ภาพรวมไม่ได้มีปัญหาเลย รวมถึงการเล่นแสงสีในหลายๆฉากทำได้สวย และ ทำสีได้ดี แต่แค่แอบเสียดายมุมกล้องบางฉากน่าจะเน้นตัวหนังได้ลึกมากกว่านี้ และ แอคชั่นน่าจะสนใจได้มากกว่านี้ถ้ามุมกล้องนั้นส่งนั้นเอง ส่วนเพลงตัวละครถือว่าทำได้ดีครับ เหมือนจะเป็นกึ่งๆเพลงประจำตัวละคร แต่ในซีนอื่นๆยังไม่ได้เพลงหรือบรรเลงอะไรให้น่าจะจดหรือเด่นๆในซีนต่อสู้เท่าไรนัก ซึ่งถ้ามองย้อนไป DC จะค่อนข้างเด่นในเรื่องนี้ถ้าเป็นยุคก่อนๆครับ แต่เรื่องนี้ความอาร์ตของหนังหายไปเยอะ แต่ก็เน้นดูง่าย มากขึ้นตลาดมากขึ้น

The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes (เดอะฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม) กลับมาอีกครั้งสำหรับแฟรนไชส์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี ที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของสังเวียนเลือดฮังเกอร์เกมส์ปฐมบท พร้อมสำรวจชีวิตของประธานาธิบดีสโนว์ ก่อนที่กลายมาเป็นตัวร้ายที่ประชาชนเกลียดชังในภาพยนตร์ไตรภาคที่หลายคนคุ้นเคยกันได้ ไทยรัฐออนไลน์นำรีวิวน่าสนใจมาฝากกัน เรื่องย่อ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes (เดอะฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม)The Hunger Games ภาคใหม่ล่าสุดปี 2023 มีชื่อเต็มๆ ว่า “The Ballad of Songbirds Snakes” เล่าเรื่องราวของการแข่งขันเดอะฮังเกอร์เกมส์ ครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 64 ปีก่อนการต่อสู้ของ “แคทนิส เอเวอร์ดีน” ตัวละครสำคัญที่รับบทโดยเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ที่แฟนๆ ได้ชมกันไปแล้วในภาพยนตร์ชุดไตรภาค สำหรับ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes เน้นเล่าความเป็นมาของ “คอริโอลานุส สโนว์” (รับบทโดย ทอม บลายธ์) โดยเผยให้เห็นชีวิตในวัยหนุ่มและจุดพลิกผันที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำบ้าอำนาจแห่งเมืองแคปิตอลในเวลาต่อมา ซึ่งมีอีกตัวละครสำคัญอย่าง “ลูซี่ เกรย์ แบร์ด” (รับบทโดย เรเชล เซกเลอร์) เด็กสาวจากเขต 12 ที่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในช่วงชีวิตวัยหนุ่มของสโนว์